อโลหะ ประโยชน์การใช้งาน และชนิดของอโลหะ

อโลหะ ประโยชน์การใช้งาน และชนิดของอโลหะ

อโลหะ เป็นวัสดุชนิดหนึ่งที่ใช้ในงานอุตสาหกรรม แต่ไม่ใช่โลหะซึ่งคุณสมบัติส่วนใหญ่จะมีความตรงข้ามกับวัสดุโลหะโดยสิ้นเชิง แต่ก็สามารถนำมาใช้ในงานอุตสาหกรรมได้อย่างแพร่หลาย โดยจะนำมาเป็นส่วนประกอบของวัสดุสังเคราะห์ เพื่อทดแทนวัสดุจากธรรมชาติในการทำอุตสาหกรรม

ทำไมวัสดุสังเคราะห์ จึงมีบทบาทมากในปัจจุบัน นั่นก็เพราะว่าในทุกวันนี้ วัสดุจากธรรมชาติเริ่มเหลือน้อยลงไปทุกวัน ทำให้ไม่เพียงพอต่อความต้องการของประชากรที่เพิ่มมากขึ้น จึงต้องใช้วัสดุสังเคราะห์ มาใช้แทนที่นั่นเอง โดยวัสดุสังเคราะห์นั้นก็เกิดจากการประดิษฐ์ขึ้นมาด้วยกรรมวิธีทางเคมี ให้เกิดเป็นสารใหม่ขึ้นมา ที่มีคุณสมบัติใกล้เคียงกับวัสดุจริงตามธรรมชาติมากที่สุด ตัวอย่างที่เห็นกันบ่อยๆ ก็คือ หนังเทียมใช้แทนหนังแท้ และยางเทียมใช้แทนยางธรรมชาติ เป็นต้น

ชนิดต่างๆ ของอโลหะ

อโลหะ สามารถแบ่งออกได้เป็นหลายชนิด และมีคุณสมบัติในการใช้งานที่แตกต่างกันไป โดยแบ่งออกเป็น ดังนี้

สี (Paint)

สีเป็นวัสดุที่จะช่วยเพิ่มความสวยงามให้กับชิ้นงาน และนิยมใช้ในงานช่างเป็นส่วนใหญ่ เช่น ทาสีบ้าน ทาเครื่องจักรกล ทาเฟอร์นิเจอร์หรือใช้ทาเครื่องใช้ไฟฟ้าต่างๆ เป็นต้น โดยคุณสมบัติของสี นอกจากจะเพิ่มความสวยงามให้กับชิ้นงานแล้ว ก็สามารถป้องกันการผุกร่อนของชิ้นงานได้อย่างดีเยี่ยม และนอกจากนี้ สีก็ยังสามารถแบ่งเป็นประเภทใหญ่ๆ ไปตามลักษณะของการใช้งานได้ดังนี้

– สีน้ำมัน

สีน้ำมันเป็นสีที่มีส่วนผสมของน้ำมันบางชนิด ซึ่งที่นิยมนำมาใช้มากที่สุด ก็คือ น้ำมันสน ทินเนอร์และน้ำมันลินสีด เป็นต้น โดยส่วนใหญ่ก็จะนิยมนำสีชนิดนี้ มาใช้ในงานโลหะและงานเฟอร์นิเจอร์ เพื่อเคลือบสีให้มีความมันวาวและดูสวยงามมากขึ้น

– สีน้ำหรือสีพลาสติก

สีน้ำหรือสีพลาสติก จะประกอบไปด้วยองค์ประกอบที่สำคัญของสี คือ พลาสติกจำพวกโพลีวีนิลอาซีเตท ซึ่งจะช่วยให้สีมีความติดทนยิ่งขึ้น ทั้งสามารถเกาะติดวัสดุต่างๆ ที่ไม่ใช่โลหะได้ดี และที่สำคัญสีประเภทนี้ก็กำลังเป็นที่นิยมและมีการนำมาใช้งานมากที่สุดเนื่องจากมีราคาถูกกว่าสีน้ำมันเป็นอย่างมาก ทั้งยังสามารถปรับสีให้มีความเข้มข้นหรือจางลงด้วยการเติมน้ำลงไปตามต้องการ

– สีเคลือบ

สีเคลือบ เป็นสีที่เกิดจากการนำเอาผงแม่สีผสมลงไปในน้ำมันวาร์นิช เพื่อใช้เป็นสีในการพ่นรถยนต์ ซึ่งคุณสมบัติหลักๆ ของสีประเภทนี้ ก็คือมีความทนทานต่อแสงแดดสูง และมีความติดแน่นทนทาน ไม่เป็นรอยขูดขีดหรือลอกจางได้ง่าย นอกจากนี้ สำหรับสีบางชนิดก็มีโลหะเม็ดละเอียดผสมอยู่ จึงทำให้สีที่ได้มีความแวววาว และสามารถเพิ่มความสวยงามให้กับชิ้นงานที่พ่นหรือสีรถยนต์ได้ดี

ยางธรรมชาติ (Natural Rubber)

ยางธรรมชาติ เป็นยางที่ได้จากต้นยางพารา ซึ่งในปัจจุบันประเทศไทยของเรา สามารถผลิตยางธรรมชาติได้มากเป็นอันดับ 3 ของโลก โดยยางที่ผลิตออกมาส่วนใหญ่ก็จะอยู่ในรูปของยางแผ่น และนอกจากยางพาราจะสามารถผลิตยางธรรมชาติออกมาได้แล้ว เมื่อหมดอายุขัย ต้นยางก็สามารถโค่นเอาไม้ไปทำเป็นถ่านหรือทำเฟอร์นิเจอร์และเยื่อกระดาษได้เช่นกัน

สำหรับต้นยางเมื่อปลูกแล้ว กว่าจะกรีดเอาน้ำยางออกมาเพื่อทำเป็นยางธรรมชาติได้นั้น ต้องรอให้มีอายุอย่างน้อย 4 ปีแต่โดยส่วนใหญ่จะนิยมเริ่มกรีดเมื่อมีอายุยางประมาณ 6-7 ปีมากกว่า และสามารถกรีดรับผลต่อเนื่องไปได้ถึง 30 ปี ส่วนการกรีดแต่ละครั้งจะได้เนื้อยางมากน้อยแค่ไหนนั้น ก็ขึ้นอยู่กับความอุดมสมบูรณ์ของพันธุ์ยางและดินฟ้าอากาศด้วย โดยพบว่าภาคใต้ เป็นภาคที่สามารถกรีดได้เปอร์เซ็นต์เนื้อยางมากที่สุด

เซรามิค (Ceramics)

เซรามิค มักจะถูกนำมาใช้ในงานอุตสาหกรรมมากที่สุด โดยเฉพาะในด้านวิศวกรรมและอุตสาหกรรมการไฟฟ้า ซึ่งผลิตภัณฑ์จากเซรามิคที่เรามักจะพบเห็นได้บ่อยๆ ก็คือ ถ้วยชามจากเซรามิค อิฐสำหรับบุเตาหลอม กระเบื้องมุงหลังคา เป็นต้น ซึ่งสำหรับต้นกำเนิดของเซรามิคนั้น ก็มาจากการนำดินเหนียวและวัสดุอื่นๆ ที่เป็นโลหะมาอบรวมกันที่อุณหภูมิสูงจนได้มาเป็นเซรามิค

หนัง (Leather)

หนัง สามารถแบ่งออกได้เป็นสองประเภทใหญ่ๆ ก็คือ หนังแท้ที่มาจากสัตว์และหนังเทียมที่มีการสังเคราะห์ขึ้นมา เพื่อให้มีลักษณะคล้ายคลึงกับหนังแท้ที่สุด

แก้ว (Glass)

แก้ว เป็นอโลหะอีกชนิดหนึ่งที่ถูกนำมาใช้งานอย่างแพร่หลาย โดยเฉพาะการนำมาทำเป็นเครื่องประดับและการเป่าแก้วขึ้นเป็นรูปร่างต่างๆ อย่างสวยงาม

ใยหิน (Asbestos)

ใยหิน เป็นอโลหะที่เกิดขึ้นเองตามธรรมชาติ สามารถนำมาใช้ประโยชน์ได้อย่างหลากหลายและคุ้มค่าที่สุด ซึ่งในปัจจุบันใยหินจากธรรมชาติก็เริ่มลดน้อยลงไปเรื่อยๆ จึงได้มีการผลิตใยหินเทียมขึ้นมาใช้แทนที่ โดยใยหินเทียมที่ได้นี้ก็ถูกเรียกว่า RockWool นั่นเอง

ดินขาวเผา (Porcelain)

ดินขาวเผา เป็นอโลหะที่ทำจากหินควอทซ์และเฟลสปาร์ ซึ่งก็มีคุณสมบัติที่เหมาะกับการใช้งานอย่างหลากหลายและได้รับความนิยมในการนำมาใช้ประโยชน์มากเช่นกัน

อโลหะ เป็นธาตุที่มีคุณสมบัติตรงข้ามกับโลหะอย่างสิ้นเชิง แต่ก็ได้รับความนิยมในการนำมาใช้งานอย่างแพร่หลายเช่นกัน โดยเฉพาะในภาคอุตสาหกรรมการแปรรูปและการผลิต โดยอโลหะที่พบว่ามีการนำมาใช้งานมากที่สุด ก็คือ ยางธรรมชาติ หนัง เซรามิคและแก้ว เป็นต้น ตัวอย่างชิ้นงานก็คือ โซฟาหนัง กระเบื้องเซรามิค กระเบื้องหลังคาหรือกระจกต่างๆ ซึ่งก็ล้วนเป็นสิ่งของที่พบในชีวิตประจำวันทั้งสิ้น